โลโก้เว็บไซต์ ไมโครนาโนบับเบิ้ลเทคโนโลยียืดอายุความสดของอาหาร หนึ่งแนวคิดที่พัฒนาเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค | คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

ไมโครนาโนบับเบิ้ลเทคโนโลยียืดอายุความสดของอาหาร หนึ่งแนวคิดที่พัฒนาเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค

เผยแพร่เมื่อ : พุธ 4 มกราคม 2560 โดย อภิญญา พูลทรัพย์ จำนวนผู้เข้าชม 3503 คน

ยังไม่มีคะแนนสำหรับบทความนี้ ผู้อ่านสามารถให้คะแนนบทความได้จากปุ่มข้างใต้

ปัจจุบันการขนส่งสินค้าเพื่อการบริโภคนั้นมีการใช้สารเคมีที่เรียกว่า ฟอร์มาลิน แช่ในเนื้อสัตว์ ผักผลไม้ เพื่อยืดอายุของการผลผลิตให้มีความสดและเก็บรักษาได้นานขึ้น เพราะเนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อน การเก็บรักษาของสดนั้นจะทำได้ยาก รวมถึงระบบการขนส่งในจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคยังมีระยะเวลานาน  นักวิจัย มทร.ล้านนา จึงได้คิดค้นเทคโนโลยีเพื่อการรักษาผลผลิตทางการเกษตรจึงได้ร่วมกับ Prof.Dr.Kiyoshi Yoshikawa นักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นและอาจารย์ประจำของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ร่วมกันพัฒนาความรู้สู่การผลิตเทคโนโลยีที่สามารถยืดอายุการเก็บรักษาอาหารไว้ให้นานยิ่งขึ้น หรือที่เรียกว่า ฟองอากาศขนาดเล็กหรือไมโครนาโนบับเบิลเพื่อคงความสดของอาหาร

รศ.ดร.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ อธิการบดี กล่าวว่า “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่เรียกว่า ไมโครนาโนบับเบิลนี้ได้ใช้ความรู้ที่มีการพัฒนามาจากประเทศญี่ปุ่นโดยมีการประยุกต์ใช้เพื่อการผลิตเครื่องมือที่เน้นประโยชน์ในการรักษาและยืดอายุของผลผลิตทางการเกษตรโดยจะเน้นพืชผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ ที่ทำการเคลื่อนย้ายจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งขั้นตอนการผลิตไปสู่การบริโภคจะใช้เวลานาน ซึ่งแต่เดิมเราใช้สารเคมีที่เรียกกันว่า ฟอร์มาลีน เพื่อรักษาความสดของอาหารถือว่าเป็นการบริโภคที่มีอันตรายมากเพราะสารเหล่านี้จะเกิดการตกค้างและส่งผลเสียแก่ร่างกายนักวิจัยของ มทร.ล้านนา จึงได้เกิดแนวคิดในการผลิตเครื่องสร้างฟองอากาศขนาดเล็กหรือที่เรียกว่า ไมโครนาโนบับเบิลเพื่อสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้ลงสู่ภาคการผลิต สู่ครัวเรือนต่อไป ปัจจุบันมทร.ล้านนา ได้ทำการเปิด “ศูนย์ความเป็นเลิศทางวิชาการด้านการประยุกต์ใช้ไฟฟ้าแรงสูงพลาสมาและไมโครนาโนบับเบิลเพื่อการเกษตรขั้นสูง” เพื่อจะป็นการเรียนรู้ ทดลอง วิจัยเพื่อที่จะได้ขยายผลสู่การนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในส่วนอื่นด้วย”

ผศ.ดร.วิษณุ ทองเล็ก อาจารย์คณะวิศวกรรมไฟฟ้า มทร.ล้านนา กล่าวว่า “การหลักการทำงานของเครื่องผลิตฟองอากาศขนาดเล็กหรือไมโครนาโนบับเบิล ก็คือ นำเอาก๊าซในโตรเจนผสมในน้ำธรรมดาทั่วไป สัดส่วนก๊าซไฮโดรเจน 30 ลิตร ต่อน้ำเปล่า 500 ลิตรจาก ทำให้ค่าการละลายของออกซิเจนในน้ำลดลง จาก 7.8 มิลลิกรัมต่อลิตร  เหลือ 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยผ่านกระบวนการทางเทคนิค ไมโครนาโนบับเบิล ซึ่งเป็นฟองก๊าซขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อทดสอบโดยการใช้แสงเลเซอร์ยิงผ่านในน้ำจะมองเห็นเป็นฟองอากาศขนาดเล็กมากๆ ผ่านลำแสงลอยอยู่ใต้ผิวน้ำ ส่วนฟองอากาศที่เป็นขนาดไมโครก็จะลอยสู่ผิวน้ำ และเมื่อนำน้ำไปผลิตน้ำแข็งที่มีค่าการละลายออกซิเจนต่ำ ทำให้เชื้อแบคทีเรียชนิดที่ใช้ออกซิเจนในการเจริญเติบโตที่มีในน้ำตาย หรือไม่เติบโต   ตัวอย่างเช่นน้ำแข็งที่ใช้น้ำนาโนผลิตจะสามารถทำให้ถนอมอาหารสดได้นานขึ้น เช่น แช่ปลาสด จากปกติได้ 4 วัน ทำให้แช่ได้นานขึ้นถึง 8 วัน เป็นต้น ซึ่งเหมาะสำหรับนำไปทดแทนการใช้สารฟอร์มาลินกับอาหารสด เพื่อไม่ให้เน่าเสียง่าย”

การรักษาความสด ใหม่ของอาหารโดยเทคโนโลยีไมโครนาโนบับเบิ้ล เป็นอีกหนึ่งความสำคัญของการรักษาคุณภาพของอาหารจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยปราศจากสารเคมีหรือสิ่งเจือปน นวัตกรรมไมโครนาโนบับเบิ้ล เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์แนวคิดเพื่อนำเทคโนโลยีที่มีประโยชน์แก่ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และการขนส่งและจะต่อยอดเพื่อขยายผลไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมระดับประเทศต่อไป 







ออกแบบและพัฒนาโดย สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา